ปัจจุบันธุรกิจค้าขายได้เข้าสู่ตลาดออนไลน์แบบเต็มตัว ด้วยความสะดวกและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดแล้วรวดเร็วจึงเป็นช่องทางสำคัญให้กับนักลงทุน พ่อค้าแม่ค้า ธุรกิจ SME และ Start UP ใหม่ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ระบบค้าขายออนไลน์อย่าง E-Commerce (อี คอมเมิร์ซ) ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีทั้งผู้ขายสินค้าและผู้ซื้อสินค้าจึงทำให้เกิดการค้าออนไลน์รูปแบบต่างๆขึ้นมากมายเช่น Social Commerce ที่เป็นการค้าออนไลน์โดยการเน้นโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

Facebook (เฟสบุ๊ค) ก็ถือเป็นโซเชียลมีเดียที่เป็นสังคมขนาดใหญ่และที่สำคัญคนไทยใช้งานเยอะมาก ด้วยความสามารถต่างๆ มากมายที่ทำให้เพื่อน หรือคนรู้จากสามารถอัพเดทข่าวสารหรือพูดคุยกันได้ นอกจากนี้ Facebook ยังส่งเสริมนวัตกรรมที่โดดเด่นภายในประเทศไทย เช่น Social Commerce หรือเครือข่ายสังคมค้าขายออนไลน์ โดยธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SME) คือหนึ่งในผู้ใช้กลุ่มแรกที่พัฒนาธุรกิจ Social Commerce ซึ่งกำลังขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และกลายเป็นเทรนด์หลักที่กำลังมาแรงสำหรับธุรกิจ SME ในประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ Facebook ประเทศไทย ยังมุ่งปลดล็อคการเติบโตของธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทย ที่กำลังมองหาช่องทางสู่อนาคตผ่านการค้าขายทางโทรศัพท์มือถืออีกด้วย

ทั้งนี้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีตลาด Social Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศไทยจึงเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ในโลกที่ Facebook เปิดตัวนวัตกรรมเพื่อธุรกิจ SME เช่น ฟีเจอร์ Shop ที่ช่วยให้การติดต่อซื้อขายและการสื่อสารกับลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้น Marketplace ที่ช่วยให้ลูกค้าค้นพบธุรกิจต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และชำระเงินผ่านพาร์ทเนอร์ในประเทศ ซึ่งช่วยให้การจ่ายเงินออนไลน์สะดวกและรวดเร็วมากกว่าเดิม

ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Social Commerce ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นประเทศอันดับหนึ่งของทวีปเอเชียแปซิฟิค และเป็นหนึ่งในห้าอันดับสูงสุดของทั่วโลกที่ผู้คนติดต่อสื่อสารกันผ่านการส่งข้อความในการทำธุรกิจมากที่สุด

E-Commerce หรือ Social Commerce ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การเติบโตสู่อนาคตของธุรกิจขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่การทำธุรกิจเชิงดิจิตอล สำหรับธุรกิจไทยขนาดใหญ่ Facebook จะมุ่งเน้นความพยายามเพื่อเอาชนะความท้าทายในการนำกลยุทธ์ดิจิตอลมาใช้งานจริง เพื่อตอบสนองอนาคตแห่งการใช้โทรศัพท์มือถือและการพัฒนาองค์กรต่อไป

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ neros-neptune.com